logo_medical_เล็ก

สหคลินิกเมดิคอลไลน์ แล็บ (บริษัท เมดิคอลไลน์ แล็บ)

โรคกะเพราะอาหารอักเสบ รู้ทันสาเหตุ อาการ และวิธีรักษาโรคกระเพาะ

โรคกะเพราะอาหารอักเสบ รู้ทันสาเหตุ อาการ และวิธีรักษาโรคกระเพาะ

asian-beautiful-women-feel-menstrual-cramps-stomachache-after-menstruation

โรคกระเพาะอาหารอักเสบ คืออะไร

กระเพาะอาหารเป็นอวัยวะที่มีน้ำย่อยและกรดที่เข้มข้นสำหรับใช้ในการย่อยอาหาร ดังนั้น ผนังของเยื่อบุกระเพาะอาหาร จึงต้องมีกลไกในการปรับสภาพให้ทนต่อกรดและน้ำย่อยเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดแผลในภาวะปกติ

โรคกระเพาะ หรือที่เรียกเต็ม ๆ ว่า ‘โรคกระเพาะอาหารอักเสบ’ คือ ภาวะการอักเสบของกระเพาะอาหาร ทำให้เยื่อบุของกระเพาะอาหารระคายเคือง แดง บวม และอาจมีแผลอักเสบ แม้ว่าโรคกระเพาะอาหารอักเสบจะไม่ใช่โรคที่รุนแรง แต่ผู้ป่วยก็ไม่ควรนิ่งนอนใจ เพราะว่าหากปล่อยไว้เรื้อรังอาจทำให้เกิดแผลในกระเพาะอาหาร หรือมีเลือดไหลในกระเพาะอาหารจนเกิดภาวะแทรกซ้อน อีกทั้งยังเพิ่มความเสี่ยงในการเป็นโรคมะเร็งกระเพาะอาหารได้อีกด้วย

โรคกระเพาะอาหารอักเสบเป็นโรคที่เกิดในระบบทางเดินอาหารที่พบได้บ่อยในปัจจุบัน พบได้ในผู้ป่วยทุกช่วงอายุตั้งแต่เด็กจนถึงผู้สูงอายุ และพบทั้งในเพศหญิงและเพศชาย สามารถเกิดขึ้นได้แบบเฉียบพลันในเวลาอันรวดเร็ว เป็นระยะสั้น ๆ ภายใน 1-2 สัปดาห์ หรือมีอาการบ่อยครั้งเป็นเวลานานจนเกิดการอักเสบเรื้อรัง เกิดแผลและเพิ่มความเสี่ยงในการเป็นโรคทางกระเพาะอาหารได้ โดยพบว่ามีผู้ป่วยโรคนี้ส่วนใหญ่มักมีอาการเป็น ๆ หาย ๆ มากถึง 80%

 

สาเหตุหรือปัจจัยเสี่ยงที่ให้เป็นโรคกระเพาะอาหารอักเสบ

สาเหตุหรือปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดโรคกระเพาะอาหารอักเสบมีดังนี้

  • การติดเชื้อแบคทีเรียเฮลิโคแบคเตอร์ไพโลไร (pylori) ผ่านการรับประทานอาหารหรือเครื่องดื่มที่ปนเปื้อนเชื้อจากอุจจาระของผู้ติดเชื้อ
  • การรับประทานยากลุ่มยาต้านการอักเสบหรือยาแก้ปวดกลุ่มเอนเสดส์ (NSAIDs) เช่น แอสไพริน ไอบูโพรเฟน ยาในกลุ่มสเตียรอยด์ (Steroid) และยาต้านเกล็ดเลือด
  • การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และการดื่มเครื่องดื่ม กาเฟอีน เช่น ชา กาแฟ น้ำอัดลม เครื่องดื่มชูกำลัง
  • การสูบบุหรี่
  • ภาวะเครียด วิตกกังวล
  • พฤติกรรมในการใช้ชีวิต เช่น การรับประทานอาหารไม่เป็นเวลา การรับประทานอาหารอย่างเร่งรีบ การรับประทานอาหารรสเผ็ดจัด เป็นต้น

woman-stomachache-wall-background

อาการของโรคกระเพาะอาหารอักเสบ

อาการแสดงของโรคกระเพาะอาหารอักเสบในผู้ป่วยแต่ละรายอาจแตกต่างกัน ดังนี้

  • ปวด เสียด ตื้อ จุก และแน่นบริเวณกระเพาะอาหาร (ใต้ลิ้นปี่) แบบเป็น ๆ หายๆ
  • ธาตุพิการ อาหารไม่ย่อย ท้องอืด ท้องเฟ้อ เรอบ่อย แน่นท้อง อึดอัดท้อง
  • ปวดท้องก่อนและหลังรับประทานอาหาร
  • ปวดท้องตอนท้องว่างหรือปวดท้องกลางดึก
  • คลื่นไส้ อาเจียนหลังรับประทานอาหาร
  • เบื่ออาหาร น้ำหนักลด
  • เมื่อเป็นมาก อาจอาเจียนเป็นเลือด หรือถ่ายอุจจาระเป็นสีดำเหมือนยางมะตอยได้

 

วิธีรักษาโรคกระเพาะอาหารอักเสบ

โรคกระเพาะอาหารอักเสบเป็นโรคสามารถรักษาให้หายได้ หากได้รับการดูแลรักษาที่ดี แต่สิ่งสำคัญที่สุดในการรักษาโรคกระเพาะอาหารอักเสบ คือ การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวันควบคู่ไปด้วย โดยผู้ป่วยสามารถรักษาโรคกระเพาะอาหารอักเสบได้ด้วยแนวปฏิบัติดังนี้

  • รับประทานอาหารตรงเวลาทุกมื้อ รับประทานอาหารที่ย่อยง่าย
  • ไม่รับประทานจนอิ่มเกินไป ลดปริมาณอาหารมื้อหลัก และเสริมมื้ออาหารว่าง
  • พยายามไม่ปล่อยให้ท้องว่างเกิน 3 ชั่วโมง และเคี้ยวอาหารให้ละเอียด
  • หลีกเลี่ยงอาหารเผ็ดจัด เปรี้ยวจัด
  • งดอาหารหมักดอง เช่น ผลไม้ดอง ผักดอง และอาหารประเภทของทอด ของมัน
  • งดเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ เครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน
  • งดสูบบุหรี่
  • ไม่เครียดหรือวิตกกังวล และพักผ่อนให้เพียงพอ
  • รักษาสุขอนามัยพื้นฐาน
  • ไม่ซื้อยารับประทานเอง โดยไม่ปรึกษาแพทย์ พยาบาล หรือเภสัชกร โดยเฉพาะยาในกลุ่มยาแก้ปวดหรือยาสเตียรอยด์
  • รับประทานยาตามที่แพทย์สั่งให้ถูกต้องและสม่ำเสมอ
  • พบแพทย์ตามนัด และรีบพบแพทย์ก่อนนัดเมื่ออาการต่าง ๆ แย่ลงหรือมีอาการผิดปกติไปจากเดิม

closeup-alarm-clock-blurred-food-background

วิธีป้องกันการเกิดโรคกระเพาะอาหารอักเสบ

โรคกระเพาะอาหารอักเสบสามารถป้องกันได้โดย

  • สังเกตความสัมพันธ์ของอาการกับอาหารและเครื่องดื่มต่าง ๆ เพื่อจำกัดหรืองดอาหารและเครื่องดื่มที่ก่อให้เกิดอาการ หรือเพิ่มความรุนแรงของอาการ
  • รับประทานแต่ละมื้อให้น้อยลง แต่บ่อยครั้ง และรับประทานอาหารให้ตรงเวลา
  • งดอาหารรสเผ็ดและรสจัด
  • งดเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ ชา และกาแฟ
  • งดสูบบุหรี่
  • หลีกเลี่ยงความเครียด ความวิตกกังวล
  • ออกกำลังกายสม่ำเสมอ พักผ่อนให้เพียงพอ
  • ล้างมือบ่อย ๆ ด้วยสบู่และน้ำ
  • รับประทานอาหารที่ปรุงสุก อ่อนนุ่ม ย่อยง่าย
  • หลีกเลี่ยงการใช้ยาแอสไพรินและยากลุ่มต้านการอักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์

 

โรคกระเพาะอาหารอักเสบเป็นโรคที่พบได้บ่อย ดังนั้น ผู้ป่วยควรพบแพทย์เพื่อรับคำแนะนำและการรักษาที่ถูกวิธี แต่หากมีอาการแย่ลง อาจเป็นสัญญาณเตือนโรคมะเร็งกระเพาะอาหาร ควรรีบพบแพทย์และรับการตรวจเพิ่มเติมเพื่อรับการรักษาอย่างทันท่วงที

Scroll to Top
Scroll to Top