logo_medical_เล็ก

สหคลินิกเมดิคอลไลน์ แล็บ (บริษัท เมดิคอลไลน์ แล็บ)

ดูแลหน้าใส ปลอดสิว เผยผิวใสแบบเป็นธรรมชาติ

ดูแลหน้าใส ปลอดสิว เผยผิวใสแบบเป็นธรรมชาติ

ทุกคนต่างก็อยากมีใบหน้าเรียบเนียนใสเป็นธรรมชาติ แต่สิว คือ ปัญหาผิวอันดับต้น ๆ ของใครหลายคน โดยสิวมักเริ่มเกิดในช่วงวัยรุ่นทั้งเพศชายและเพศหญิง และยังอาจพบได้แม้ในผู้ที่มีอายุ 30-40 ปีก็ตาม ซึ่งสิวถือเป็นโรคเรื้อรังที่รักษาได้ยาก สามารถกลับมาเป็นใหม่ได้เรื่อย ๆ จนอาจทำให้ผู้ที่เป็นสิวหมดความมั่นใจ และส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันasian women with acne

สิวคืออะไร? สิวเกิดจากอะไร?

สิว คือ ภาวะการเกิดความผิดปกติบริเวณรูขุมขนและต่อมไขมันในรูขุมขน พบมากบริเวณใบหน้า ลำคอ และลำตัวส่วนบน ซึ่งเป็นตำแหน่งที่มีต่อมไขมันขนาดใหญ่หนาแน่น โดยสาเหตุของการเกิดของสิวมีหลากหลาย และอาจเกิดได้จากปัจจัยต่าง ๆ ทั้งภายในและภายนอกได้ เช่น

  • การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน
  • กรรมพันธุ์
  • การใช้ยาหรือสารเคมีบางชนิด
  • สภาพผิวหน้าและความมันบนใบหน้า
  • การดูแลและทำความสะอาดผิวหน้า
  • ความเครียด การพักผ่อนไม่เพียงพอ
  • การแพ้สารสัมผัสหรือสารบางชนิดที่ผสมอยู่ในเวชภัณฑ์ต่าง ๆ เช่น เครื่องสำอาง สบู่ล้างหน้า ยาสระผม เป็นต้น
  • สิ่งแวดล้อม เช่น การสัมผัสฝุ่นละออง ความร้อน หรือแสงแดด

ประเภทของสิว สิวมีกี่ประเภท?

ประเภทของสิวสามารถแบ่งออกได้เป็น

  • สิวอุดตัน คือ สิวที่เกิดจากการอุดตันของต่อมไขมัน มีลักษณะเป็นเม็ดเล็กสีขาว พบได้บ่อยบริเวณใบหน้า ลำคอ และลำตัว โดยเฉพาะที่แผ่นหลัง ซึ่งเป็นตำแหน่งที่มีต่อมไขมันจำนวนมาก
  • สิวอักเสบ คือ สิวที่เกิดจากการอุดตันและอักเสบของต่อมไขมัน ร่วมกับการติดเชื้อแบคทีเรีย มักมีลักษณะเป็นตุ่มแดง ตุ่มหนอง หรือตุ่มบวมแดง ร้อน เจ็บ คล้ายฝี บางรายอาจมีไข้ได้
  • สิวหัวดำ คือ สิวหัวเปิดที่มองเห็นหัวสิว เกิดจากการอุดตันรูขุมขนของน้ำมันส่วนเกินและเซลล์ที่ตายแล้ว จากนั้นมีการทำปฏิกิริยากับออกซิเจน จนทำให้หัวสิวกลายเป็นสีดำ
  • สิวหัวขาว คือ สิวหัวปิดที่เป็นตุ่มนูนสีขาวอยู่ใต้ผิวหนัง เมื่อลูบแล้วมีลักษณะเป็นไตเล็ก ๆ เกิดจากการอุดตันรูขุมขนของน้ำมันส่วนเกินและเซลล์ที่ตายแล้ว หากปล่อยทิ้งไว้อาจติดเชื้อและกลายเป็นสิวอักเสบได้
  • สิวหัวหนอง คือ สิวอักเสบชนิดหนึ่ง มีลักษณะเป็นตุ่ม บวม แดง มีขนาดใหญ่และมีหนอง เกิดจากการติดเชื้อที่รูขุมขน
  • สิวเชื้อราหรือสิวยีสต์ คือ สิวที่เกิดจากการอักเสบของรูขุมขน โดยมีสาเหตุจากเชื้อรา สิวเชื้อราจะมีลักษณะเป็นตุ่มแดงคล้ายสิว และมีอาการคันร่วมด้วย
  • สิวซีสต์ หรือ สิวหัวช้าง คือ สิวก้อนนูนแดงที่สามารถขยายขนาดใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อสัมผัสจะพบว่าเป็นก้อนแข็ง ภายในเต็มไปด้วยหนอง เกิดจากการอักเสบในรูขุมขนอย่างรุนแรง

ความรุนแรงของสิว คุณอยู่ในระดับไหน?

  • สิวระดับน้อย คือ สิวหัวขาว สิวหัวดำ สิวชนิดตุ่มนูนแดง และสิวหัวหนอง
  • สิวระดับปานกลาง คือ การเป็นสิวอุดตันและสิวที่มีหนองจำนวนมาก มักจะเป็นบริเวณใบหน้า
  • สิวระดับรุนแรงปานกลางถึงรุนแรงมาก คือ การที่มีสิวอักเสบและสิวหัวหนองจำนวนมาก รวมถึงมีสิวอักเสบขนาดใหญ่ สามารถเกิดขึ้นได้ทั้งบริเวณใบหน้า บริเวณอก และแผ่นหลัง
  • สิวระดับรุนแรงมาก คือ การเป็นสิวอักเสบและสิวหัวหนองขนาดใหญ่จำนวนมาก

close-up-beautiful-smiling-young-asian-woman-issolated-white-skin

วิธีรักษาสิว เผยผิวใสแบบเป็นธรรมชาติ

สำหรับวิธีรักษาสิวในเบื้องต้นคือการแยกประเภทของสิวที่เป็นและรักษาตามประเภทของสิวนั้น ๆ ในกรณีที่เป็นสิวอักเสบ การรักษาจะมีอยู่ 2 วิธี ได้แก่ การรับประทานยาและการทายา ซึ่งแพทย์ผิวหนังจะพิจารณาวิธีรักษาสิวอักเสบที่เหมาะสมกับความรุนแรงในคนไข้แต่ละราย หากคนไข้มีสิวอักเสบ สิวหัวช้างจำนวนมากอาจต้องรักษาด้วยการฉีดยาเพื่อให้สิวยุบเร็วขึ้น นอกจากนี้ สำหรับผู้ที่มีปัญหาสิวอักเสบแต่ดื้อยา แพทย์อาจใช้วิธีการรักษาด้วยแสง (LED Light ) ที่ช่วยฆ่าเชื้อพีแอคเน่ (P. acnes) และลดการอักเสบของสิวร่วมด้วย

ในกรณีสิวอุดตัน นอกจากการใช้ยาทาแล้ว ก็สามารถใช้ยารับประทานร่วมด้วย โดยยารักษาสิวอุดตันจะช่วยลดปัญหาผิวมันและสิวอุดตัน และในคนไข้บางราย แพทย์อาจใช้เทคโนโลยีช่วยแก้ปัญหาสิวอุดตันอย่างการผลัดผิวด้วยผงคริสตัล (MD) ซึ่งช่วยให้หัวสิวอุดตันหลุดออกได้

 

ดูแลตนเองอย่างไรให้ไร้สิว วิธีป้องกันสิวอย่างถูกวิธี

  • ใช้สบู่ล้างหน้าที่เหมาะสมกับสภาพผิว
  • ล้างหน้าอย่างเบามือและถูกวิธี งดการขัดหน้าแบบรุนแรง ไม่ล้างหน้าบ่อยเกินไป
  • หลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนประกอบที่อาจจะทำให้เกิดการระคายเคืองหรือก่อให้เกิดสิว
  • หลีกเลี่ยงสิ่งกระตุ้น เช่น การใช้เครื่องสำอาง สารเคมี และสารสกัดบางชนิด
  • หลีกเลี่ยงการสัมผัสแสงแดดจัด ๆ และการใช้ผลิตภัณฑ์ที่ทำให้หน้ามัน
  • พักผ่อนให้เพียงพอ ไม่นอนดึก หรืออดนอน
  • หลีกเลี่ยงความเครียด
  • ออกกำลังกายเป็นประจำ
  • รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ดื่มน้ำอย่างเพียงพอในแต่ละวัน
  • งดลูบคลำบริเวณผิวหน้า หลีกเลี่ยงการบีบหรือแกะสิว
  • ใช้ยาตามที่แพทย์สั่งหรือคำแนะนำตามเอกสารกำกับยาเท่านั้น

 

ภายหลังการรักษาสิวแล้ว ผู้ป่วยบางรายอาจจำเป็นต้องรักษาแผลเป็นที่เกิดจากสิว ซึ่งอาจใช้เวลายาวนานถึง 6 เดือน  โดยปัจจุบันมีหลายวิธี อาทิ การใช้สารเคมีลอกผิวหน้า การขัดผิวหน้า การใช้เลเซอร์ เป็นต้น โดยการรักษาด้วยวิธีเหล่านี้จำเป็นต้องอยู่ภายใต้ดุลยพินิจและการดูแลของแพทย์เฉพาะทางด้านโรคผิวหนังเท่านั้น

 

Ref:

https://www.vibhavadi.com/Health-expert/detail/404

Scroll to Top
Scroll to Top