โรคมือเท้าปาก คืออะไร พร้อมแนวทางการรักษา วิธีป้องกันและสาเหตุของโรค

โรคมือเท้าปาก คืออะไร พร้อมแนวทางการรักษา วิธีป้องกันและสาเหตุของโรค

โรคมือเท้าปาก (Hand, Foot, and Mouth Disease: HFMD) เป็นโรคติดเชื้อไวรัสที่พบบ่อยในเด็กและเด็กเล็ก โดยเฉพาะช่วงหน้าฝน ในช่วงสัปดาห์แรกของการติดเชื้อมักเป็นช่วงที่เชื้อแพร่กระจายได้อย่างรวดเร็ว และผู้ป่วยที่ติดเชื้อยังสามารถแพร่กระจายไวรัสต่อได้อีกหลายสัปดาห์แม้ไม่มีอาการแล้ว โดยโรคนี้จะทำให้เกิดผื่นที่มือ เท้า และแผลในปาก อาการมักไม่รุนแรง แต่หากไม่ได้รับการดูแลที่เหมาะสม อาจเกิดภาวะแทรกซ้อนที่เป็นอันตรายได้

โรค มือ เท้า ปาก ขึ้นที่เท้า

โรคมือเท้าปาก คืออะไร

โรคมือเท้าปาก คือ โรคติดเชื้อไวรัสที่พบได้บ่อยในเด็กเล็ก โดยเฉพาะในเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี เกิดจากเชื้อไวรัสกลุ่มเอ็นเทอโรไวรัส (Enterovirus) ซึ่งส่วนใหญ่เป็นคอกซากีไวรัส (Coxsackievirus) และเอ็นเทอโรไวรัส 71 (Enterovirus 71: EV71) เมื่อผู้ป่วยสัมผัสเชื้อจะเริ่มมีไข้ แผลในปาก และผื่นที่มือและเท้า ซึ่งบางครั้งอาจมีตุ่มน้ำใส โรคนี้มักไม่รุนแรงและหายได้เองภายใน 7-10 วัน โดยมักเกิดขึ้นในที่ที่มีคนอยู่ร่วมกันเป็นจำนวนมาก เช่น โรงเรียนอนุบาลหรือสถานเลี้ยงเด็ก โรคมือเท้าปากสามารถพบในผู้ใหญ่ได้เช่นกัน แต่จะพบได้น้อยกว่า และอาการมักจะไม่รุนแรงเท่าในเด็กเล็ก

 

สาเหตุของโรคมือเท้าปาก

โรคมือเท้าปากเกิดจากการติดเชื้อคอกซากีไวรัสหรือเอ็นเทอโรไวรัส 71 ซึ่งอยู่ในกลุ่มเอ็นเทอโรไวรัส โดยเชื้อไวรัสเหล่านี้สามารถแพร่กระจายผ่านการสัมผัสโดยตรงกับสารคัดหลั่ง เช่น น้ำลาย น้ำมูก เสมหะ อุจจาระ หรือน้ำจากตุ่มของผู้ป่วย รวมถึงการสัมผัสสิ่งของที่ปนเปื้อนเชื้อ เช่น ของเล่น อาหารที่ปนเปื้อนเชื้อ หรือพื้นผิวที่ผู้ป่วยสัมผัส

 

อาการของโรคมือเท้าปาก

เมื่อเชื้อโรคเข้าสู่ร่างกายจะใช้ระยะเวลาฟักตัวประมาณ 3-7 วัน จากนั้นผู้ป่วยจะเริ่มมีไข้สูง อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร และเจ็บคอ หลังจากนั้นประมาณ 1-2 วัน จะเริ่มมีตุ่มแดงหรือตุ่มน้ำใสขึ้นในปาก โดยมักเกิดบริเวณลิ้น เหงือก และด้านในแก้ม ทำให้ผู้ป่วยเจ็บปาก น้ำลายไหล ทานอาหารได้น้อย ในบางรายอาจพบผื่นแดงหรือตุ่มน้ำใสขึ้นที่มือ เท้า แขน ขา ก้น อวัยวะเพศ และบริเวณข้อพับ โดยไม่มีอาการคัน แต่บางกรณีอาจรู้สึกเจ็บ โรคนี้มักไม่รุนแรงและหายได้เองภายใน 7-10 วัน อย่างไรก็ตาม หากพบอาการรุนแรง เช่น ไข้สูงเป็นเวลานาน ชัก หรืออ่อนเพลียมาก ควรพาผู้ป่วยไปพบแพทย์ทันที

 

ภาวะแทรกซ้อนของโรคมือเท้าปาก

แม้โรคมือเท้าปากจะเป็นโรคที่หายเองได้ แต่ก็ควรเฝ้าระวังภาวะแทรกซ้อน โดยเฉพาะการติดเชื้อ EV71 ซึ่งอาจทำให้ผู้ป่วยมีอาการรุนแรงและเสียชีวิตได้ ภาวะแทรกซ้อนที่พบได้บ่อย ได้แก่ ภาวะขาดน้ำ เนื่องจากผู้ป่วยมักเจ็บปาก ทำให้ไม่อยากดื่มน้ำหรือทานอาหาร อาจนำไปสู่ภาวะขาดน้ำ นอกจากนี้ โรคมือเท้าปากยังอาจนำไปสู่ภาวะเยื่อหุ้มสมองอักเสบแบบปลอดเชื้อ (Aseptic Meningitis) ภาวะสมองอักเสบ (Encephalitis) รวมถึงภาวะหัวใจและปอดล้มเหลว ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นอันตรายถึงชีวิตได้

โรค มือ เท้า ปาก ขึ้นที่มือ

โรคมือเท้าปากสามารถหายได้เองในกี่วัน

โรคมือเท้าปากมักหายได้เองภายใน 7-10 วัน ผู้ป่วยส่วนใหญ่จะมีอาการดีขึ้นหลังจากผ่านไปประมาณ 1 สัปดาห์ โดยไข้จะลดลงและตุ่มน้ำในปากและผิวหนังจะค่อย ๆ แห้งและหายไป อย่างไรก็ตาม การดูแลรักษาอาการเบื้องต้น เช่น การพักผ่อนอย่างเพียงพอ ทานอาหารที่มีประโยชน์ และดูแลไม่ให้ร่างกายขาดน้ำเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้ร่างกายฟื้นตัวเร็วยิ่งขึ้น

 

วิธีป้องกันโรคมือเท้าปาก

  • ล้างมือบ่อย ๆ ด้วยสบู่และน้ำสะอาดหลังใช้ห้องน้ำ ก่อนรับประทานอาหาร และหลังสัมผัสสิ่งสกปรก
  • รักษาความสะอาดของสิ่งของส่วนตัว เช่น ของเล่น เครื่องใช้ต่าง ๆ โดยเฉพาะสิ่งที่ต้องใช้งานร่วมกับผู้อื่น
  • หลีกเลี่ยงการสัมผัสหรือใกล้ชิดกับผู้ป่วย หรือใช้สิ่งของร่วมกับผู้ป่วยที่มีอาการของโรคมือเท้าปาก
  • ปิดปากและจมูกเมื่อไอหรือจามเพื่อป้องกันการแพร่กระจายเชื้อ
  • รักษาสุขอนามัยในที่สาธารณะ เช่น โรงเรียนอนุบาลหรือสถานเลี้ยงเด็ก โดยทำความสะอาดและฆ่าเชื้อพื้นผิวและของใช้ต่าง ๆ อย่างสม่ำเสมอ
  • ไม่อยู่ในสถานที่แออัด เช่น สนามเด็กเล่น ห้างสรรพสินค้า โดยเฉพาะในช่วงที่มีการระบาดของโรคหากไม่จำเป็น

แพทย์กำลังแนะนำวิธีการรักษา

แนวทางการรักษาโรคมือเท้าปาก

  • ใช้ยาลดไข้และยาแก้ปวด เช่น พาราเซตามอล เพื่อช่วยลดไข้และบรรเทาอาการเจ็บปาก
  • ดื่มน้ำมาก ๆ เพื่อป้องกันภาวะขาดน้ำ โดยอาจให้ดื่มน้ำเกลือแร่หรือน้ำเย็นเพื่อช่วยลดอาการเจ็บปาก
  • รับประทานอาหารอ่อนที่ไม่ทำให้แสบปาก เช่น ข้าวต้ม โจ๊ก หรือนม
  • พักผ่อนให้เพียงพอ เพื่อช่วยให้ร่างกายฟื้นตัวเร็วขึ้น
  • หลีกเลี่ยงการใช้ยาปฏิชีวนะ เนื่องจากโรคมือเท้าปากเกิดจากเชื้อไวรัส ยาปฏิชีวนะจึงไม่ช่วยในการรักษา
  • หากพบอาการรุนแรง เช่น ไข้สูงนาน อาเจียน หรือชัก ควรรีบพาผู้ป่วยไปพบแพทย์ทันที

 

ยาที่ใช้ในการรักษาโรคมือเท้าปาก

การรักษาโรคมือเท้าปากส่วนใหญ่เน้นการบรรเทาอาการ เนื่องจากโรคนี้เกิดจากการติดเชื้อไวรัส ซึ่งไม่มียารักษาเฉพาะ แต่ยาที่ใช้บรรเทาอาการมีดังนี้

  • ยาลดไข้และแก้ปวด เช่น พาราเซตามอล (Paracetamol) ไอบูโพรเฟน (Ibuprofen)
  • ยาลดอาการเจ็บคอ ยาฉีดพ่นในช่องปาก หรือยาละลายในน้ำที่มีสารบรรเทาอาการเจ็บคอ
  • น้ำเกลือแร่ ช่วยป้องกันภาวะขาดน้ำ โดยเฉพาะเมื่อมีอาการไข้สูงหรือไม่สามารถดื่มน้ำได้
  • ในบางกรณีอาจใช้ยาต้านไวรัสเพื่อบรรเทาอาการ แต่ควรอยู่ในความดูแลของแพทย์

อย่างไรก็ตาม ควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้ยาและติดตามอาการของผู้ป่วยอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะในกรณีที่มีอาการรุนแรงหรือไม่ดีขึ้น

 

แนวทางการดูแลร่างกายของผู้ป่วยโรคมือเท้าปาก

  • ให้ผู้ป่วยพักผ่อนให้เพียงพอ เพื่อช่วยให้ร่างกายฟื้นตัวเร็วขึ้น
  • ให้ผู้ป่วยดื่มน้ำมาก ๆ เพื่อป้องกันภาวะขาดน้ำ สามารถให้ดื่มน้ำเกลือแร่หรือน้ำเย็นเพื่อลดอาการเจ็บปาก
  • เลือกทานอาหารอ่อนและนุ่ม เช่น ข้าวต้ม โจ๊ก หรือซุป ซึ่งไม่ทำให้รู้สึกเจ็บในปาก
  • หากมีอาการเจ็บปาก สามารถใช้ยาพ่นในช่องปากหรือยาละลายในน้ำที่มีสารบรรเทาอาการได้
  • หากมีไข้สูง สามารถใช้ยาลดไข้ เช่น พาราเซตามอล เพื่อบรรเทาอาการได้
  • หากเด็กป่วยเป็นโรคมือ เท้า ปาก ควรหยุดเรียน และพักรักษาให้หายป่วยเสียก่อน เพื่อป้องกันไม่ให้ไปแพร่เชื้อสู่ผู้อื่น
  • คอยสังเกตอาการ หากมีอาการรุนแรง เช่น ไข้สูงนาน อาเจียน หรืออาการชัก ควรพาไปพบแพทย์ทันที

 

Ref:

https://www.pidst.or.th/A297.html

https://www.phyathai.com/th/article/2526-hand_foot_mouth_disease_in_children_and__prevention_branchpyt2

Scroll to Top