รู้จักโรคตาต้อ 4 ชนิด ต้อกระจก, ต้อหิน, ต้อลม และต้อเนื้อ
“ดวงตา” คือ อวัยวะที่มีบทบาทและมีความสำคัญต่อการดำเนินชีวิตประจำวัน ในขณะเดียวกัน ความเสื่อมของสภาพร่างกายตามอายุและไลฟ์สไตล์ก็ส่งผลทำให้เกิดอันตรายต่อดวงตาได้เช่นเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นการใช้คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือ การดูโทรทัศน์ การอ่านหนังสือเป็นเวลานาน รวมถึงการเผชิญแสงแดดจัด ก็ล้วนแล้วแต่ทำให้เกิดความเสี่ยงที่จะเป็นโรคทางตาได้สูงกว่าปกติ โดยเฉพาะโรคตาต้อ เช่น ต้อลม ต้อหิน ต้อกระจก และต้อเนื้อ ซึ่งโรคตาต้อเหล่านี้มีสาเหตุ อาการ และวิธีรักษาที่ต่างกัน หากผู้ป่วยหรือผู้ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงทราบอาการตาต้อตั้งแต่เนิ่น ๆ ก็จะสามารถทำการรักษาและยืดอายุการใช้งานของดวงตาไปได้อีกนาน
ต้อกระจก

-
สาเหตุของต้อกระจก
สาเหตุของโรคต้อกระจก คือ การเสื่อมสภาพของเลนส์ตาในลูกตาตามอายุ ทำให้เลนส์ตาขุ่น พบมากในผู้สูงอายุ ในผู้ป่วยบางรายอาจพบว่าเป็นโรคที่ติดมาตั้งแต่กำเนิด หรือเกิดหลังประสบอุบัติเหตุทางดวงตา ส่วนปัจจัยเสี่ยงร่วมอื่น ๆ ได้แก่ การได้รับแสงยูวีบ่อย ๆ การสูบบุหรี่ การใช้ยาสเตียรอยด์ รวมถึงโรคประจำตัว เช่น โรคความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน ที่ทำให้เป็นต้อกระจกเร็วขึ้น
-
อาการของต้อกระจก
ผู้ป่วยมักมีเลนส์ตาขุ่นหรือมีฝ้าขาวบริเวณกลางรูม่านตา ทำให้บดบังการมองเห็น จึงมองเห็นภาพมีลักษณะคล้ายเป็นหมอกหรือควันขาว ๆ บัง มีอาการตาพร่า มองภาพไม่ชัด เห็นภาพซ้อนกัน คุณภาพการมองแย่ลงในที่มืดหรือที่สว่างมาก ๆ จนอาจมองไม่เห็นในที่สุดหากไม่ได้รับการรักษา
-
วิธีรักษาต้อกระจก
หากผู้ป่วยมีอาการเล็กน้อย เลนส์ตายังไม่ขุ่นมาก หรือรู้ตัวตั้งแต่เนิ่น ๆ สามารถรักษาได้โดยใช้ยาหยอดตาเพื่อชะลออาการไม่ให้เลนส์ตาขุ่นเร็วขึ้น แต่วิธีการรักษาต้อกระจกที่ได้ผลดีที่สุดคือการผ่าตัด โดยวิธีการผ่าตัดต้อกระจกออกและฝังเลนส์เทียมโดยใช้คลื่นเสียงความถี่สูง (Ultrasound) ซึ่งเป็นการผ่าตัดแผลเล็ก โดยจักษุแพทย์จะเป็นผู้ให้รายละเอียดแก่ผู้ป่วยแต่ละราย
ต้อหิน

-
สาเหตุของต้อหิน
สาเหตุของโรคต้อหิน เกิดจากความดันลูกตาที่สูงขึ้นจนทำให้ขั้วประสาทตาเสื่อมสภาพหรือทำลายประสาทตา แต่ต้อหินที่ไม่มีความดันตาสูงก็พบได้เช่นกัน ผู้ที่มีบุคคลในครอบครัวเป็นต้อหินมักมีความเสี่ยงในการเป็นต้อหินเพิ่มขึ้น ส่วนปัจจัยเสี่ยงอื่น ๆ ได้แก่ เชื้อชาติ อายุ การใช้ยาสเตียรอยด์ ภาวะสายตาสั้นมาก โรคประจำตัวบางชนิด เช่น เบาหวาน เป็นต้น
-
อาการของต้อหิน
แม้ต้อหินพบได้น้อยกว่าต้อกระจก แต่เป็นภัยเงียบที่อาจนำไปสู่การสูญเสียการมองเห็นอย่างถาวร โดยอาการของโรคต้อหินในเริ่มแรกมักไม่มีอาการชัดเจน แต่ผู้ป่วยจะมีภาพการมองเห็นแคบลงและสูญเสียการมองเห็นอย่างช้า ๆ จนตาบอดอย่างถาวร ในบางกรณีหากเป็นชนิดเฉียบพลันก็อาจมีอาการปวดตา ตาแดง ตามัวร่วมด้วยได้
-
วิธีรักษาต้อหิน
วิธีรักษาโรคต้อหินมีหลายวิธี เช่น การใช้ยา การทำเลเซอร์ การผ่าตัด หรือบรรเทาอาการด้วยวิธีการดูแลตาด้วยวิธีอื่น ๆ โดยจักษุแพทย์จะเป็นผู้พิจารณาวิธีที่เหมาะสมกับผู้ป่วยแต่ละราย อย่างไรก็ตาม ส่วนที่เสียหายเดิมจะไม่สามารถกลับมาเป็นปกติได้ ดังนั้น การตรวจคัดกรองและวินิจฉัยตั้งแต่เริ่มแรกจะสามารถช่วยลดโอกาสสูญเสียการมองเห็น โดยเฉพาะในผู้ที่มีประวัติครอบครัวเป็นต้อหิน
ต้อลม

-
สาเหตุของต้อลม
สาเหตุของโรคต้อลมเกิดจากความเสื่อมของเยื่อบุตาขาวจากปัจจัยภายนอกที่กระทบกับดวงตาโดยตรง เช่น การสัมผัสกับฝุ่น ควัน มลภาวะ ลมร้อน หรือรังสียูวีมากเกินไป หรือสะสมเป็นเวลานาน ทำให้เกิดการระคายเคืองของเยื่อบุตาขาว และเกิดเนื้อนูนที่เยื่อบุตาด้านข้างกระจกตาหรือตาดำ พบได้ในผู้ป่วยทุกเพศ ทุกวัย โดยเฉพาะในผู้ที่มีอายุ 30 ปีขึ้นไป และในประเทศเขตร้อน
-
อาการของต้อลม
อาการของโรคต้อลม ผู้ป่วยจะมีการระคายเคืองบริเวณดวงตาและเยื่อบุตา รู้สึกแสบตาเมื่อโดนแสงแดด ตาแดง หรือมีน้ำตาไหลได้ จะเป็นมากขึ้นเมื่ออยู่กลางแดดหรือโดนลม หากมีอาการระคายเคืองอย่างรุนแรงอาจกลายเป็นต้อเนื้อที่ตาได้
-
วิธีรักษาต้อลม
วิธีรักษาโรคต้อลมในกรณีที่ไม่รุนแรงนั้นสามารถบรรเทาอาการและป้องกันได้ด้วยการใช้น้ำตาเทียมหยอดตาให้ชุ่มชื้นอยู่ตลอดเวลา หลีกเลี่ยงฝุ่นควัน มลภาวะ สวมแว่นกันแดด พักสายตาระหว่างการทำงานเป็นระยะ เป็นต้น โดยไม่จำเป็นต้องผ่าตัดออกเพราะเป็นเพียงก้อนเนื้อขนาดเล็ก ไม่มีอันตรายต่อตาและไม่ใช่โรคร้ายแรง ดังนั้น วิธีที่ดีที่สุดคือการป้องกันการเกิดโรคต้อลมตั้งแต่เริ่มแรก
ต้อเนื้อ

-
สาเหตุของต้อเนื้อ
สาเหตุของโรคต้อเนื้อ เป็นโรคที่ต่อเนื่องมาจากโรคต้อลม ผู้ป่วยมีอาการของโรคต้อลมอยู่ก่อนแล้ว เมื่อเป็นมากขึ้นจึงทำให้ต้อลมนั้นหนาตัวขึ้นและลามเข้ามาบริเวณขอบตาดำ หากงอกยื่นเข้าไปในบริเวณตาดำแล้วจะไม่หายไปและคงอยู่อย่างนั้น จนกลายเป็นต้อเนื้อในที่สุด
-
อาการของต้อเนื้อ
อาการของโรคต้อเนื้อจะคล้ายกับโรคต้อลม เพียงแต่มีก้อนเนื้อเป็นรูปสามเหลี่ยมยื่นเข้าไปในตาดำ ทำให้ผู้ป่วยระคายเคืองตาง่าย ตาโดนแสงไม่ได้ แสบตา คันตา เห็นภาพไม่ชัด และในผู้ป่วยที่มีอาการมากอาจส่งผลต่อการมองเห็น เพราะต้อเนื้อจะค่อย ๆ ลุกลามเข้าตาดำจนปิดรูม่านตา โดยจะไปบังการมองเห็นกระจกตาและทำให้สายตาเอียงได้ นอกจากนี้ยังทำให้เกิดตาแห้งร่วมได้อีกด้วย
-
วิธีรักษาต้อเนื้อ
วิธีรักษาโรคต้อเนื้อเบื้องต้นจะคล้ายกับโรคต้อลม คือ การหยอดยาเพื่อบรรเทาอาการระคายเคืองตาและทำให้ตาไม่แดง แต่หากมีอาการรุนแรงต้อเนื้อลุกลามเข้าไปในกระจกตามาก จักษุแพทย์อาจแนะนำให้รักษาด้วยการผ่าตัดลอกต้อเนื้อ ทั้งนี้ ผู้ป่วยบางรายที่ลอกต้อเนื้อไปแล้ว อาจมีโอกาสกลับเป็นซ้ำได้ และมีลักษณะที่หนาและแดงกว่าเดิม ในขณะที่การรักษาโดยการลอกอีกครั้งจะทำยากกว่าการลอกครั้งแรก
ปัญหาเกี่ยวกับโรคตาเป็นต้อส่วนใหญ่เกิดจากการเสื่อมสภาพของร่างกายที่ร่วงโรยไปตามอายุที่เพิ่มขึ้น หรือการใช้ชีวิตประจำวันที่ขาดการระมัดระวัง การตรวจสุขภาพดวงตากับจักษุแพทย์เป็นประจำจึงเป็นเรื่องสำคัญ นอกจากจะช่วยประเมินสุขภาพดวงตาได้อย่างละเอียดแล้ว หากตรวจพบว่าดวงตามีปัญหาโรคต้อสามารถเข้ารับการรักษาได้ทันท่วงที ก่อนที่จะร้ายแรงถึงขั้นสูญเสียการมองเห็น
Reference:
https://www.vimut.com/article/common-eye-diseases
https://www.nakornthon.com/article/detail/4ต-โรคต้อของดวงตาที่ควรรู้จัก